บุหรี่ไฟฟ้านำขึ้นเครื่องอย่างไรให้ปลอดภัย

บุหรี่ไฟฟ้านำขึ้นเครื่องบินอย่างไรให้ปลอดภัย

โดยทั่วไปแล้ว ตามกฎหมายของสายการบินทั่วโลกจะห้ามนำเอาบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในกระเป๋าเดินทางแล้วโหลดลงไปที่ใต้ท้องเครื่อง ผู้โดยสารจะต้องนำติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วยเท่านั้น และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าก็จะถูกตีเป็นของเหลวเช่นเดียวกัน โดยมีเงื่อนไขคือต้องบรรจุต่อหนึ่งขวดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และหนึ่งคนต้องมีของเหลวรวมกันได้ไม่เกิน 1 ลิตร เหมือนกับการพกของเหลวทั่วไป เช่น เจลสเปรย์ เป็นต้น ซึ่งปริมาณดังกล่าวคือจำนวนของเหลวที่สามารถใส่ในกระเป๋าเดินทางโหลดใต้ท้องเครื่องได้ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยมอย่างมากในหลาย ๆ ประเทศ แต่ทั้งนี้ยังควรต้องคำนึงถึงเรื่องของกฎหมายและข้อห้ามของแต่ละประเทศ ซึ่งหลายคนอาจทราบอยู่แล้วว่าประเทศไทยมีกฎหมายที่กำหนดไว้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่สำหรับประเทศอื่น ๆ บุหรี่ไฟฟ้านั้นไม่ผิดกฎหมาย โดยประเทศที่ถือว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ได้แก่ ประเทศไทย ประเทศบราซิล ประเทศฟิลิปปินส์ และ ประเทศเวียดนาม ทั้งนี้ในบางประเทศก็มีการจำกัดการใช้บุหรี่ไฟฟ้า เช่น ประเทศออสเตรเลียที่บุหรี่ไฟฟ้าได้รับอนุญาตให้ใช้ได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ตัวของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีส่วนผสมของนิโคตินอยู่จึงไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นก่อนจะขึ้นเครื่องเพื่อเดินทาง ผู้พกพาควรศึกษา กฎระบบระเบียบ ของประเทศปลายทางที่จะไปให้ดีทุกครั้ง เพื่อที่จะไม่เกิดปัญหาและความวุ่นวายตามมาทีหลัง เพราะถ้าหากนำเข้าไปในประเทศที่ไม่อนุญาตและนำบุหรี่ไฟฟ้าไปสูบในที่ต่าง ๆ อาจถูกจับและปรับได้ โดยการจะนำบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นไฟลท์ไปต่างประเทศได้ เพื่อน ๆ ต้องเช็คดูก่อนว่ากฎหมายของประเทศนั้น ๆ อนุญาตให้นำบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นได้หรือไม่

โดยทั่วโลกได้มีการจัดการกับบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ 3 ประเภท ดังนี้

1.ประเภท ขาว-ดำ คือนำเข้าได้ หรือ ไม่สามารถนำเข้าได้เลย

2.ดูที่นิโคติน หากมีนิโคตินจะไม่สามารถนำเข้าได้ หากไม่มีนิโคตินจะสามารถนำเข้าได้

3.สำหรับประเทศที่นำบุหรี่ไฟฟ้าเข้าประเทศได้ อาจต้องมีการจ่ายภาษี

ข้อควรระวังเมื่อพกพาบุหรี่ไฟฟ้าเดินทางบนเครื่องบิน

แม้ว่าจะสามารถพกบุหรี่ไฟฟ้าเดินทางไปกับเครื่องบินได้ แต่ข้อห้ามที่สำคัญก็คือ ไม่สามารถสูบบุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบินได้ ถึงจะไม่มีกลิ่นรบกวนเหมือนกับบุหรี่มวน แต่การสูบบุหรี่ไฟฟ้าระหว่างการเดินทางยังถือว่าผิดกฎหมายของสายการบิน ซึ่งถ้าหากฝ่าฝืนอาจถูกดำเนินการตามกฎหมายและถูกเชิญลงจากเที่ยวบินได้เลย ซึ่งเหตุผลที่ห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบินนั่นก็เป็นเพราะว่า อาจทำให้ระบบวาล์วระบายอากาศที่ใช้ควบคุมความดันอากาศบนเครื่องอาจเกิดการอุดตันขึ้น และคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพอาจเกิดผลกระทบร้ายแรงได้ อาจจะทำให้หายใจติดขัด หรือรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต นอกจากนี้ต่อให้ไม่ใช่คนที่มีปัญหาทางระบบหายใจก็อาจจะได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน อีกทั้งหากระบบระบายอากาศเสีย การซ่อมบำรุงในส่วนนี้แน่นอนว่าสายการบินต้องจ่ายในราคาที่สูงลิบลิ่วอีกด้วย และยังห้ามชาร์จบุหรี่ไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่ของบุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบินอย่างเด็ดขาด ดังนั้นการให้ทุกเที่ยวบินกลายเป็นเที่ยวบินปลอดบุหรี่จึงดีกับทุกฝ่ายมากที่สุด โดยกฎการบินนี้ใช้กันอย่างเป็นทางการทั่วโลกมาตั้งแต่ช่วงปี 2000 และแน่นอนว่าจะยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป

สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ไหนสะดวกปลอดภัยเมื่อเดินทางไปด้วยเครื่องบิน

ในปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนหันมาใช้และสูบกันเป็นจำนวนมาก และการอยู่ในสนามบินอาจจะใช้เวลารอคอยไฟล์ทบินเป็นเวลานาน ทำให้ผู้คนต้องการที่จะสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อฆ่าเวลา แต่กระนั้นการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะไม่ได้ถูกยอมรับโดยทั่วไป ทำให้ในสนามบินจะมีพื้นที่ Smoking Area หรือ ที่อนุญาตให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าได้เท่านั้น โดยในบางสนามบินจะมีห้องสำหรับสูบบุหรี่ไฟฟ้าภายในอาคารเลย และบางที่จะมีห้องให้สูบโดยเฉพาะที่ Gate ในตอนที่รอขึ้นเครื่องอีกด้วย

เพื่อน ๆ อย่าลืมศึกษากฎของแต่ละสายการบิน

ก่อนที่จะนำบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินกันด้วยนะครับ